วันที่ 8 กันยายน พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายพีระ กาญจนพงษ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 8 พ.ต.อ.สถาพร พัฒนรักษ์ ผกก.สส.ภาค 8 และกำลังทหาร มทบ.45 นำหมายจับศาลจังหวัดไชยา ที่ 86/2562 ลงวันที่ 3 กันยายน 2562 และหมายค้นศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 11/2562 ลงวันที่ 7 กันยายน 2562 เข้าตรวจค้นจับกุม นายศิริศักดิ์ หรือต้น อินทร์ศาสตร์ อายุ 46 ปี ฉายา “ต้น นักเลงหลวง” ทำงานเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.เกาะสมุย ที่ 15 มีความผิดฐานฟอกเงิน เหตุเกิดท้องที่หมู่ 3 ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี สามารถตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่างๆ จำนวนหลายกระบอก กระสุนปืน 645 นัด และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ควบคุมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงปี 2557 มีการแพร่ระบาดยาเสพติดบนเกาะสมุยอย่างมาก จึงมีการตั้งชุดเฉพาะกิจ “ร้อยเกาะ” บูรณาการร่วมตำรวจทหารและ อส. ดำเนินการกวาดล้างจับกุม โดยนายศิริศักดิ์เป็น 1 ในชุดเฉพาะกิจ แต่ระยะหลังกลับมีพฤติการณ์เกี่ยวพันกับผู้ค้ายาเสพติด และให้การคุ้มครองผู้กระทำผิดหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ติดตามพฤติกรรมนายศิริศักดิ์มานานแล้ว พบว่า ขณะที่มีการกวาดล้างจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ อ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส.ภาค 8 มักจะถูกร้องเรียนว่ามีการจับกุมแล้วถูกรีดไถ จนสืบทราบว่านายศิริศักดิ์เป็นผู้กระทำการ ล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้ขยายผลการจับกุมยาบ้า 40,000 เม็ด ที่ส่งมาทางขนส่งเอกชนในพื้นที่ สภ.ท่าชนะ และจับกุมไอซ์ น้ำหนัก 3 กิโลกรัม ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่านายศิริศักดิ์มีส่วนร่วม
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาได้มีการปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดบนพื้นที่ อ.เกาะสมุย หลายครั้งไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ได้ เนื่องจากนายศิริศักดิ์จะคอยแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ และให้การคุ้มครองผู้ค้ารายสำคัญบนเกาะสมุยจนหลบหนีไปได้ ถือเป็น อส.ขาใหญ่บนเกาะสมุย ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากนายศิริศักดิ์ตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 34 ล้านบาท จึงให้อายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดไว้ตรวจสอบ
ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจได้เข้ามารายงาน จึงให้ดำเนินการจับกุมและสั่งไล่ออกทันที โดยให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ถือว่าให้นโยบายสั่งการไปแล้ว โดยทางฝ่ายปกครองจะไม่ปกป้องคนผิดอย่างแน่นอน หากพบมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะสั่งดำเนินการเด็ดขาดเช่นกัน.
ทีมา:siamnews.com