เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอกนนท์ แสงมะณี รอง สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ที่บ้านเลขที่ 307 บ้านสันป่าสัก หมู่ 3 ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จึงรายงานให้ พลตำรวจเอกสิทธิชัย ไกรแสง ผกก สภ บ้านดู่ ทราบก่อน ประสาน พลตำรวจโทรัชพล สะสม สว สส สภ บ้านดู่ และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และหน่วยกู้ภัย รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านคอนกรีตสีชมพู ชั้นเดียว จากการตรวจสอบพบภายในบ้านมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 คน คือนายอุดม กิมสี อายุ 57 ปีเจ้าของบ้าน เป็นพนักงานเทศบาล ตำบลบ้านดู่ ฝ่ายจัดเก็บรายได้ในกองคลังของเทศบาล นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องโถงใกล้กับประตูด้านหน้าบ้าน ที่ห้องนอนพบศพนางณัชชา กิมสี อายุ 51 ปีภรรยา นายอุดม และที่ห้องนอนถัดไปพบศพของ นางสาวเสาวรส กิมสี หรือน้องแป้ง อายุ 26 ปีซึ่งเป็นลูกสาวของทั้ง 2 คน สภาพศพเริ่มขึ้นอืดคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 3ถึง4 วัน เบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจหาร่องรอยการเสียชีวิตได้เพราะศพเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงได้ให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์นำศพทั้งหมดทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายอุดมจะเดินทางไปทำงานที่เทศบาล ตำบลบ้านดู่ ส่วนภรรยาและลูกสาวอยู่บ้าน ซึ่งน.ส.เสาวรส นั้นพึ่งคบหากับชายหนุ่มคนหนึ่งทราบชื่อเบื้องต้นว่านายนวล อายุ 27 ปี เป็นชาว อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาชาวบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งต่อมาทางเทศบาล ตำบลบ้านดู่ พบว่านายอุดมไม่ได้ไปทำงาน นายพัฒนพงษ์ โพธิ์เกตุ นายกเทศมนตรี ตำบลบ้านดู่ และญาติจึงได้ไปตามหาที่บ้านก็พบว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดเสียชีวิตจากการถูกยิงแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐานอื่นในที่เกิดเหตุ ด้านญาติระบุว่าไม่เห็นด้วยที่น้องแป้งไปคบหากับนายนวลเพราะมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังชุดสืบสวนออกติดตามหาตัวนายนวลพร้อมทั้งประสาน สภ ท้องที่ใกล้เคียง และสภ ชายแดน อำเภอแม่สาย และ อำเภอเชียงแสน ให้ช่วยสกัดกั้นแลควบคุมตัว
ด้าน พ ต อ สันติ กองสมัคร รอง ผบภ ภ จว เชียงราย กล่าวว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ฟันธงว่าเกิดจากเรื่องภายในครอบครัวกันเองหรือเกิดจากการฆาตรกรรม ซึ่งสาเหตุร่องรอยการเสียชีวิตก็ยังไม่ชัดเจน เพราะยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากศพที่มีสภาพขึ้นอืดแล้ว ขณะที่ของกลางในที่เกิดเหตุยังไม่พบอาวุธแต่ก็จะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
ด้านนายพัฒนพงษ์ กล่าวว่าตามปกตินายอุดมจะเป็นคนร่าเริงตนจึงไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ เพราะเขาก็ไม่เคยบ่งบอกว่ามีเรื่องคับแค้นใจทั้งยังเป็นคนช่วยเหลือชาวบ้านโดยเดินทางทำงานที่เทศบาลตามปกติในนแผนกจัดเก็บรายได้ทำให้แต่ละวันก็จะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปสำรวจพื้นที่ตามสายงาน กระทั่งก่อนเกิดเหตุก็ยังได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่และแม้แต่ตนก็เคยพูดคุยด้วยเสมอ เพราะนายอุดมถือเป็นคนเก่าแก่ที่ทำงานในเทศบาลมากว่า 10 กว่าปี
ข่าวโดย ณัฐวัตร ลาพิงค์ ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเชียงราย
ทีมา:siamnews.com
