วันที่ 22 ธันวาคม 2562 นายจักรธร โงะบุดดา กำนันตำบลบ้านเม็ง ชี้แจ้งกรณี นางทัน อายุ 87 ปี เข้าแจ้งความกล่าวหาว่าตนเองกาบัตรเลือกตั้งซ่อม สส ขอนแก่น เขต 7 แทน ยายพิการขึ้นโรงพักแจ้งความ อ้างถูกกำนันเอาบัตรเลือกตั้งซ่อมไปกา ว่า ไม่รู้เรื่อง ทำงานไปตามปกติ อยากถามกลับว่าไปทำอะไรให้ เพราะทำไปตามหน้าที่ ช่วยเลหือผู้พิการทุกคน รู้สึกแปลกใจที่เป็นข่าว ยอมรับว่าเข็นรถเข็นของ นางทัน เข้าคูหาจริงเพราะเป็นการอำนวยความสะดวกคนพิการ แต่ไม่ได้ทำอย่างที่ นางทัน กล่าวหา และขณะนั้นไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ยืนยันว่า ไม่ได้กา ไม่ได้ชี้บอกหมายเลขอะไรใดๆ ไม่เห็นช่วงที่ นางทัน กาบัตรเลือกตั้งด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงไม่ให้ทายาทพาเข้าคูหาตามกฎหมายเลือกตั้ง นายจักรธร ตอบว่า อ้าว ก่อนจะพูดต่อไปว่า ที่อบรมคือให้กรรมการหน่วยเลือกตั้งพาเข้าคูหา พร้อมทั้งบอกว่ามีคนในหน่วยเลือกตั้งเป็นพยาน ถ้าคุณยายไม่พอใจทำไมไม่โวยวาย ถ้าไม่พอใจที่ผมจับมือแกกาต้องโวยวายให้คนรู้หมดสิ อันนี้ปกติทุกอย่าง ขณะนั้นมีเสียงแทรกขึ้นมาว่าให้เรียกลูกชายของยายมายืนยัน
จากนั้นมีเจ้าหน้าที่หญิงอีกคนเข้ามาเล่าว่า ช่วงที่ญาติจะพายายเข้าคูหาหลังรับบัตรเลือกตั้ง ตนเองเป็นคนบอกตำรวจและกำนันให้ช่วยพายายเข้าคูหา เพราะเป็นช่วงที่มีคนใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก จึงให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเป็นผู้พาเข้าไป และผู้สังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้งก็ไม่พบเหตุผิดปกติ อีกทั้งบอกด้วยว่า ยายไม่ค่อยมาใช้สิทธิ์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ก็จำได้คล้ายๆ ว่ายายไม่มา ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ยายให้สัมภาษณ์
ทางด้าน นางธัน ให้สัมภาษณ์ภายหลังทราบเรื่องว่า นายจักรธร กล่าวปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่กลัวเพราะพูดไปตามความจริง ยืนยันไม่ได้หาเรื่อง
ขณะที่ นางโฉมยง บุญอยู่ อาสาสมัครที่มาดูแลผู้ป่วย กล่าวว่ามาทำงานเป็าอาสาสมัครที่หน่วยเลือกตั้งนี้ ยืนยันว่ายายความจำหลงลืมๆ ขณะที่น้องชายยายกลับกล่าวว่า ความจำยายปกติดี ไม่ได้หลงลืม อย่างไรก็ตาม นางโฉมยง ออกมาจากหน่วยเลือกตั้งหลังให้สัมภาษณ์ ต่อว่า นางละเอียด อินการเมืองมากเกินไป ขณะที่ นางละเอียด โต้กลับว่าไม่ได้อยู่ข้างไหน แต่อยู่ข้างความถูกต้อง
