เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลี่เมล ของต่างประเทศได้รายงานอ้างอิงผลการวิจัยทางการแพทย์ของประเทศจีนเผยว่า ผู้ป่วย covid-19 ที่หายดีแล้ว มีผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบ แต่กลับมาเป็นซ้ำพบมีผลตรวจเป็นบวก มากถึงประมาณ 3-14 %
แพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอู่ฮั่น ได้เผยว่า ในการศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 147 ราย พบว่า มี 5 ราย ที่เป็นผู้ป่วยเก่าเคยมีผลตรวจเชื้อเป็นลบและรักษาหายเป็นปกติ แต่กลับมีผลเป็นบวกอีกครั้ง และที่น่าประหลาดใจคือ ผู้ป่วยที่หายแล้วกลับมาเป็นซ้ำนั้นไม่แสดงอาการ ทั้งนี้ทางนักวิจัยก็ยังไม่พบหลักฐานว่าพวกเขาติดเชื้อซ้ำมาจากไหน เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวของทุกคนมีผลการทดสอบเป็นลบ แพทย์ได้ตั้งข้อสงสัยว่า มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ป่วยโควิด 19 ที่หายดีแล้ว มีผลการทดสอบเป็นลบก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นผลลบลวง โดยเรื่องสำคัญคือแม้ว่าผู้ป่วยจะหายแล้ว มีผลทดสอบเป็นลบแล้วก็จริง แต่ก็ยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และยังต้องให้กักตัวต่อไปอีก 2 สัปดาห์ หลังจากที่ออกจาก รพ.
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญหลายรายได้คาดการณ์เอาไว้ว่า อาจจะมีพาหะเงียบหรือผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ยังคงสามารถแพร่เชื้อได้เป็นจำนวนมากในขณะนี้ เช่นเดียวกับรายงานอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ที่ชี้ให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสที่ไม่แสดงอาการ หรือแสดงอาการล่าช้า อาจสูงถึง 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่มีผลทดสอบเป็นบวก
ด้วยเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีความเป็นกังวลอย่างมากว่าประเทศจีนอาจจะกลับมาเกิดการระบาดของไวรัส covid-19 เป็นครั้งที่สอง ภายหลังจากทางการเชื่อว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
จึงได้สั่งยกเลิกล็อกดาวน์โดยได้ยกเลิกมาตรการคุมเข้ม ผู้คนจากมณฑลหูเป่ย์ ที่เป็นแหล่งกำเนิดการแพร่เชื้อ เริ่มสามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้แล้ว ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา จีนได้ปล่อยตัวผู้ป่วย 74,051 ราย ซึ่งคิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยทั้งหมดในประเทศ ออกมาจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณทีมา:siamnews.com