อนุทิน ย้ำสถานการณ์น่าห่วง คนที่มาจากตปท. ส่วนใหญ่จะมีผู้ติดเชื้อทุกเที่ยวบิน การผ่อนคลายเฟส 4 จะต้องสอดคล้องกับพ.ร.ก.ฉุกเฉินซึ่งรวมถึงโรงเรียนที่จะเปิดเทอมในเดือน ก.ค.นี้ด้วย ทุกอย่างต้องหารือกันด้วยเหตุและผล สำคัญที่สุดคือไม่ให้คนไทยติดเชื้อ
9 มิ.ย.เวลา 08.45 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะหมดอายุสิ้นเดือน มิ.ย.จะมีการต่ออายุหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้หารือกัน ส่วนเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ตอนนี้เราไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมา 2 สัปดาห์กว่าแล้ว แต่เราก็ยังต้องระวังอยู่ สังเกตจากคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะมีผู้ติดเชื้อทุกเที่ยวบิน แสดงว่าการติดเชื้อในต่างประเทศยังมีอยู่ ดังนั้นถ้าเราจะไปเปิดประเทศทันทีก็อาจจะยังไม่ปลอดภัยสำหรับในประเทศ ก็ต้องระวัง
เมื่อถามว่าแสดงว่าการผ่อนคลายเฟส 4 จะต้องสอดคล้องกับพ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องสอดคล้องกัน ซึ่งรวมถึงโรงเรียนที่จะเปิดเทอมในเดือน ก.ค.นี้ด้วย ทุกอย่างต้องหารือกันด้วยเหตุและผล สำคัญที่สุดคือไม่ให้คนไทยติดเชื้อ โดยเฉพาะในเด็กต้องระวังและเราต้องมั่นใจจริงๆว่าไม่มีการแพร่ระบาด อย่างน้อยการที่เราระมัดระวังมากๆส่งผลให้เห็นว่าประเทศไทยมีมีการติดเชื้อและหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีทางที่จะถอยหลังลงไป ยกเว้นจะมีซุปเปอร์สเปรดเดอร์ (การแพร่เชื้อโรคไปยังบุคคลอื่นจำนวนมาก) อีกครั้ง แบบนี้ต้องมาว่ากันใหม่ ซึ่งไม่น่าจะมี
เมื่อถามย้ำว่าแบบนี้กฎหมายต่างๆยังจำเป็นอยู่ใช้หรือไม่ในเรื่องของการบังคับใช้ นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงเราไม่เคยบังคับใช้ เพียงแต่ขอความร่วมมือและประชาชนก็มีความเข้าใจต่ออันตรายของโรคนี้จึงให้ความร่วมมือ เรื่องสุขภาพของคนไปบังคับกันไม่ได้ความร่วมมือเท่านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เมื่อถามอีกว่าหากมีการยกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยังมีพ.ร.บ.ควบคุมโรคอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พ.ร.บ.ควบคุมโรคยังไม่บูรณาการเท่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งก็มีดี มีเสีย แต่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดี แม้ว่าจะมีเคอร์ฟิวหรือจัดระเบียบอะไรต่างๆทุกคนให้ความร่วมมือดี โดยที่ไม่ต้องมีการบังคับอะไร
ขอบคุณทีมา:jarmlive.com