เกิดเหตุตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาระนอง ขัดข้อง ทำให้รายการกดเงินเกินเป็น 10 เท่าของจำนวนที่กด เบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้คาดว่าเงินถูกกดออกไปเป็นจำนวนหลักแสน
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 13 มิถุนายน 2563 ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า ระบบตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาระนอง ถนนท่าเมือง ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เกิดปัญหาเงินทะลักออกจากตู้เอทีเอ็มจำนวนมากกว่าเงินที่ต้องการกดจริง จึงรีบสั่งการให้ เจ้าหน้าที่สายตรวจชุดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เร่งรุดเข้าตรวจสอบเหตุทันที พร้อมมีการประสานงานกับทางผู้บังคับบัญชา และประสานงานกับผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์สาขาระนอง เพื่อดำเนินการแก้ไขปิดระบบการใช้งานทันที
โดยในที่เกิดเหตุ เป็นธนาคารไทยพาณิชย์ ตึกอาคารที่ทำการธนาคารสามชั้น ชั้นล่างสุดมีตู้เอทีเอ็มจำนวน 2 ตู้ ตั้งอยู่ริมถนนท่าเมือง ย่านกลางเมืองระนอง ยังปรากฏมีประชาชน เดินทางมาใช้บริการกันต่อเนื่อง โดยตู้เอทีเอ็มเครื่องแรกที่รับ ถอนและโอนเงิน ได้มีการปิดระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หน้าจอตู้เอทีเอ็ม ขึ้นข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า ขออภัย ขณะนี้เครื่องปิดบริการชั่วคราว
ซึ่งพนักงานร้านอาหารที่อยู่ข้างธนาคารและเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เพื่อผมก็มากดเงินที่หน้าธนาคารเหมือนกัน โดยฝากเงินใส่เข้าไปสามร้อยแล้วสามารถกดเงินออกมาได้สามพันบาท โดยมีคนมาใช้บริการไปแล้วนับ10 ราย แต่ผมไม่ทันสังเกตทั้งหมดเพราะต้องทำงานไปด้วย
ในส่วนของประชาชนพลเมืองดีชาวระนอง ที่มาใช้บริการในคราวแรกได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองระนอง เพื่อไปพบกับ ร.ต.ท.จิตติณ ภักดีโชติ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระนอง เพื่อมาทำการลงบันทึกประจำวันถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นและเกรงจะได้รับความเสียหาย จึงขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยทุกคนได้กดเงินออกจาตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์สาขาระนอง เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มียอดเงินแตกต่างกัน บางคนกด 2,700 บาท ได้เงินมา 27,000 บาท อีกคนกดถอนเงิน 1,200 บาท ตู้เอทีเอ็มจ่ายเงินออกมา 12,000 บาท ซึ่งผู้ที่เดินทางไปกดเงินในช่วงเกิดเหตุได้พูดคุยกันว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ได้ไปต่อแถวกดเงินกัน 4 คน พอกดเงินออกมารู้ทันทีว่าไม่ใช่แล้ว ครั้งแรกคิดว่าระบบตู้เอทีเอ็มคงเออเร่อ โดยข้อเท็จจริงจากผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์สาขาระนอง กล่าวว่า ปัญหาที่แท้จริง เกิดจากวันนี้ที่ช่างธนาคารมาซ่อมตู้เอทีเอ็ม แต่ตั้งระบบอ่านค่าธนบัตรผิด ส่งผลให้บางคนกดมา 3,000 เงินออกมา 30,000 แล้วหนูไม่มั่นใจไปกดอีกรอบหนึ่ง กดออกมาได้ 60,000 เลยค่ะพี่ และท่านที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ตกใจเลยค่ะน้องบางคนกด 300 ได้มา 3,000 กด 500 ได้มา 5,000 ก็ตกใจกันทุกคน ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุทันที และมีการโทรไปที่คอลเซนเตอร์สำนักงานใหญ่
ทางผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์สาขาระนอง พร้อมพนักงานได้รีบเดินทางมาที่ สภ.เมืองระนอง ภายหลังจากส่วนกลางทำการปิดระบบตู้เอทีเอ็มที่เกิดปัญหาแล้ว ก่อนจะได้คุยกับกลุ่มพลเมืองดีที่เดินทางมาลงบันทึกประจำไว้ เพื่อให้ทราบถึงตัวบุคคลและยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็มจ่ายเกินออกมา ทั้งนี้มีการนับเงินสดแบงก์ละพันบาท จำนวนหลายหมื่นบาท ที่พลเมืองดีส่งคืนให้กับทางพนักงานธนาคารทันที ซึ่งรวมๆ ยอดที่ชาวระนองนำมาคืนเบื้องต้น 4 คน ยอดรวมแล้ว 94,000 บาท และยังมีอีกหลายบัญชีที่ถูกกดออกไปก่อนหน้า ซึ่งบางท่านก็แจ้งความประสงค์ว่าจะมาคืนให้กับธนาคารในวันจันทร์ทำการที่ 15 มิถุนายนนี้
นายอภิสิทธิ์ แซ่ขอ อายุ 33 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ได้คืนวันจำนวน 19,000 บาทให้กับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารและรับเงินคืนที่กดจริง จำนวน 1,900 บาทแทน นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าตนได้รับเงินสดเกินจากตู้มา 19,000 บาท จริง ตอนที่ผมอยู่หน้าตู้ ผมได้บอกกับบุคคลที่จะมากดเงินติ่ว่าตู้เสีย มีความประสงค์ไม่อยากให้เงินในตู้หลุดออกไป และให้เค้าไปกดกับอีกตู้หนึ่งก่อน แต่พอผมออกมาแล้ว ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งทางผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์สาขาระนอง ได้ยืนยันว่ามีการปิดระบบตู้เอทีเอ็มแล้ว และได้ประสานไปคอลเซนเตอร์ธนาคารส่วนกลางสำนักงานใหญ่ก็บอกว่าได้ปิดระบบแล้ว
โดยสลิปเงินที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็มเป็นยอดที่ลูกค้ากดออกมาจริง แต่เงินที่ได้เกินออกมาจำนวน 10 เท่า ซึ่งผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์สาขาระนอง ได้ทำการลงบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เช่นกันรวมทั้งจำนวนยอดที่ได้รับคืนมาในช่วงหลังเกิดเหตุจากพลเมืองเป็นยอดเงินสุทธิ 94,000 บาท
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากระบบคอมพิวเตอร์ภายในที่อ่านค่ากล่องใส่ธนบัตรด้านในตู้เอทีเอ็ม อ่านค่าผิด ซึ่งค่ากล่องเงินฉบับละ 1,000 บาท เครื่องอ่านค่ากล่องเป็น100 บาท จึงทำให้เงินออกมาเกิน 10 เท่า สร้างความตกใจ และสร้างความแตกตื่นให้กับผู้ที่มากดเงิน พร้อมกล่าวทิ้งท้ายฝากถึงประชาชนใครที่กดเงินแล้วได้รับผิดไป ให้นำมาคืนธนาคารภายในวันจันทร์นี้ เพราะระบบธนาคารมีทั้งระบบรายงานตรวจสอบ เป็นลิสต์รายชื่อว่าใครมาเป็นผู้กดเงินออกไป อีกทั้งกล้องวงจรปิดที่ยืนยันตัวบุคคลอีกชั้นหนึ่ง
นายยงยุทธ์ พร้อมเพรียง อายุ 43 ปี พนักงานบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส สาขาระนอง กล่าวว่า ผมมากดเงินเพียง 1,200 บาทแต่เงินออกมา 19,000 บาท ก่อนจะนำเงินที่เกินคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มารอรับและบันทึกรายชื่อผู้ที่ส่งเงินคืนแล้ว พร้อมได้รับคำขอบคุณ นายยงยุทธ์ กล่าวสั้นๆ หลังจากคืนเงินแล้วว่าเป็นอะไรครับ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผมกดเงินมา 1,200 บาท แต่เงินที่ออกมาจากตู้ธนาคาร 12,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ผมกดเงินแล้ว มีน้องผู้ชายมาต่อแถวอีกคนหนึ่ง แล้วกดเงินออกมาก็ปรากฏว่ายอดเงินเกินผิดออกมาอีกครั้ง จึงทำการห้ามไม่ให้ใครกดแล้วก่อนจะรีบแจ้ง จนท.ตำรวจสายตรวจ แล้วรีบเดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าจะมีใครมากฎต่ออีกหรือไม่ แต่ผมเอาเงินมาคืนให้แล้วรู้สึกสบายใจขึ้น
ทีมา:jarmlive.com