เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ดีมากเลยทีเดียวสำหรับเเม่ๆ จากกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรั ฐมนตรี
เเละรั ฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์จัดโครงการ พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 5 Back To School
เพื่อลดค่าครองชีพช่วงเปิดภาคเรียนที่จะมาถึงในวันที่ 1 ก.ค. 2563 เพื่อช่วยพ่อเเม่ ผู้ปกครองลดภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของลู กหลานนั้น ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี
เเละขอขอบคุณที่ รมว.พาณิชย์ได้เห็นความสำคัญของการศึกษา เเละช่วยเเก้ปัญหาค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องรับภาระหนักในช่วงเปิดเทอมการศึกษา
จะต้องหาเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียน เเละค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน การที่กระทรวงพาณิชย์มีโครงการลดราคาช่วยประชาชน เเบ็ค ทู สคูล Back To School นั้น
นับว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจาก CO VID เเละทุกครั้งที่มีการเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่ ผู้ปกครองเเละนักเรียนจะมีหน้าที่เดินเข้า 2 โรง คือ ผู้ปกครองเข้าโรงจำนำ ลู กหลานเข้าโรงเรียน
เเต่เมื่อมีโครงการเเบ็ค ทู สคูล Back To School ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือเเบ่งเบาภาระของผู้ปกครองนักเรียนได้ระดั บหนึ่ง
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการเยียวย านักเรียนของรัฐบาล จากเดิมที่ รมว.ศึกษาธิการ เคยมีดำริที่จะช่วยเหลือนักเรียนระดั บอาชีวศึกษาคนละ 2,500 บาท
จนถึงบัดนี้ก็ยังไ ม่ได้รับการเยียวย าใดๆ ทั้งสิ้น เเละนักเรียนในระดั บการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก็ไม่ได้รับการเยียว ย า ใดๆ เช่นกัน จึงขอเสนอให้รัฐบาลได้ช่วยเหลือผู้ปกครองผ่านเด็ กนักเรียน
โดยจัดการช่วยเหลือในลักษณะของขวัญวันเปิดเทอมให้กับนักเรียนระดั บชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทุกคน ทั้งนักเรียนในสังกัดโรงเรียนรัฐบาลเเละโรงเรียนเอกชน คนละ 1,000 บาท
ซึ่งเป็นอัตราการเยียวย าเท่ากับที่มติ ครม.เมื่อวันที่16 มิ.ย. อนุมัติเยียวย าช่วยเหลือ
ให้เเก่ เด็ กเเรกเกิด สูงอายุ ผู้พิก าร คนละ 1,000 บาท จำนวน 6.7 ล้านคน วงเงินงบประมาณ 20,345 ล้านบาท เเละมีมติเห็นชอบโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเเละสังคมภาคการท่องเที่ยว
เป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งเเต่ ก.ค.ถึงต.ค. 2563 งบประมาณ 22,400 ล้านบาท รวมเงินงบประมาณทั้งสิ้น 42,745 ล้านบาท
ใช้เงินงบประมาณมากกว่าการช่วยเหลือการศึกษาของเย าวชนที่เป็นอนาคตของชาติ การช่วยเหลือให้นักเรียนคนละ 1,000บาท ระยะเวลา 3 เดือน
นอกจากจะช่วยส่งเสริมการศึกษาของชาติเเล้ว ก็ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลในทางอ้อม ไ ม่น้อยกว่าการเเ จกเเพ็คเกจกระตุ้ นการท่องเที่ยวของรั ฐบ าลในขณะนี้อีกด้วย