เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ของเด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 อับอายที่ถูกครูยึดโทรศัพท์แล้วนำแชทส่วนตัวไปเปิดประจานให้เพื่อนนักเรียนด้วยกันดู คิดสั้นทำร้ายตัวเอง โชคดีที่บ้านช่วยได้ทันรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ในพื้นที่หมู่ 3 ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ ซึ่ง นางน้อย อายุ 34 ปี แม่ของ ด.ญ.บี (นามสมมติ) วัย 13 ปี เผยว่าลูกสาวผูกคอที่บ้าน แต่โชคดีที่พ่อแม่และพี่ชายช่วยเหลือไว้ได้ทัน
พอสอบถามจึงทราบสาเหตุมาจากกรณีครูประจำชั้นที่โรงเรียน ยึดโทรศัพท์ของลูกสาว แล้วนำไปเปิดแชทส่วนตัวให้เพื่อนนักเรียนด้วยกันดูกันหลายคน ทำให้ลูกสาวเกิดความอับอายตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
นางน้อย เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังตนกลับมาจากทำงานมาถึงบ้านได้ไม่นาน ก็ทราบว่าครูที่โรงเรียนของลูก ยึดโทรศัพท์ของลูกไป แต่ก็ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรที่โรงเรียนหลังจากนั้น แต่สังเกตเห็นลูกสาวนั่งในบ้านด้วยอาการซึมเศร้า ไม่ยอมพูดคุยกับใคร
แต่ตนยังไม่เอะใจอะไร คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ต่อมาไม่นานลูกสาวคนเล็กวิ่งมาบอกว่าพี่สาวผูกคอตัวเองในห้องนอนของบ้าน ลูกชายคนโตจึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก็พบลูกสาวคือ ด.ญ.บี ใช้เชือกผูกคอตัวเองกับขื่อของหลังคาในห้อง จึงรีบเข้าไปช่วยอุ้มร่างลงมา และช่วยไว้ได้จนปลอดภัย
หลังเกิดเรื่องจึงสอบถามลูก จนทราบว่า สาเหตุเกิดจากลูกสาวรู้สึกอายเพื่อนที่โรงเรียน หลังจากครูประจำชั้น ซึ่งเป็นครูชาย ยึดเอาโทรศัพท์มือถือไป แล้วนำโทรศัพท์ของลูกไปเปิดแชทข้อความส่วนตัวให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนดูกัน 10-20 คน ทำให้ลูกเกิดความอับอายและคิดสั้น ซึ่งหลังทราบเรื่อง ตนและสามี รวมทั้งญาติๆ ไม่พอใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงอยากเอาเรื่องครูคนนี้ให้ถึงที่สุด
นางน้อย เล่าต่อว่า ตนมองว่าการที่ครูทำแบบนี้กับเด็ก เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะผลกระทบที่ลูกสาวรับทำให้ลูกตัดสินใจได้ถึงขนาดนี้ ทำให้ตนยอมไม่ได้ การกระทำของครูเป็นการประจานเด็ก หากครูจะยึดโทรศัพท์ก็ยึดไป แต่ไม่ควรเอาการแชทส่วนตัวไปเปิดประจานแบบนี้ หลังเกิดเหตุสามีตนโทรไปสอบถาม ครูก็ปฏิเสธ แต่บอกว่าขอโทษ สามีตนบอกว่าหากจะขอโทษ ให้มาขอโทษที่บ้าน
เบื้องต้นตนอยากให้ครูคนนี้ออกไปจากโรงเรียน ไม่อยากให้อยู่โรงเรียนนี้แล้ว เพราะเคยเกิดเหตุกับเด็กนักเรียนหลายคนมาแล้ว ตอนนี้ลูกสาวของตนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนแล้วหลังเกิดเหตุการณ์นี้ ส่วนที่ต้องนำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผย เพราะคุยกับลูกแล้ว ลูกยืนยันว่าอยากเอาผิดครูคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ด้าน ด.ญ.บี เผยด้วยว่า ช่วงที่เกิดเหตุในโรงเรียน เป็นช่วงที่เลิกเรียนกันแล้ว ตนจึงนำโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นตามปกติ แต่ระหว่างที่ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ครูก็เดินมาหยิบโทรศัพท์ไปจากมือ แล้วเอาไปอ่านแชทในโทรศัพท์โดยมีเพื่อนนักเรียนอีกหลายคนยืนอ่านอยู่ด้วย ทำให้ตนรู้สึกอายเพื่อนในโรงเรียนที่เห็นแชทส่วนตัว หลังเกิดเรื่องตนจึงรีบกลับบ้านทันที เหตุที่ตัดสินใจคิดสั้น เพราะรู้สึกอายที่ครูมาประจานแบบนั้น ทำให้อายเพื่อนๆ ในโรงเรียน
หลังจากที่กลับมาบ้านแล้ว ตอนเย็นเพื่อนที่โรงเรียนก็ติดต่อบอกตนหลังเกิดเหตุว่า ครูยังไปพูดกับเด็กนักเรียนคนอื่นว่าถ้าเด็ก ม.1 ย้ายออกจากโรงเรียนไปทั้งหมด ครูจะทำบุญให้ 1,000 บาท ก่อนนี้ครูเคยชอบเปิดกระโปรงเด็กนักเรียนหญิงด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้ และดำเนินการกับครูคนดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ปกครองของเด็กหญิง เตรียมนำเรื่องนี้หารือกับญาติๆ อีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพื่อจัดการกับครูคนดังกล่าว
เรียบเรียง siamstreet.com