หลุมพอเพียง เกษตรผสมผสาน ปลูกทุกอย่างในหลุมเดียว หลุมพอเพียง เป็นแนวคิดในการทำเกษตรแบบผสมผสาน เป็นการนำเอาต้น ไม้หลายชนิดมาปลูกไว้รวมกันในหลุมเดียว ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ต้นไม้แต่ละชนิดช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกัน คล้ายๆกับป่าใหญ่ในธรรมชาติที่มีต้นไม้หลายชนิดเจริญเติบโตอยู่รวมๆกัน พึ่งพาอาศัยข้อดีของกันและกัน เช่น ต้นไม้ใหญ่ เป็นร่มเงาให้ต้นไม้เล็ก พืชเลื้อยคลุมหน้าดินลดการระเหยของน้ำในหน้าดิน ช่วยให้พืชในหลุมทนแล้งได้ดี หรือ พืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์แสบร้อนช่วยไล่แมลงศัตรูพืช ที่จะบุกรุกเข้ามาในแปลงผัก หลุมที่ว่านี้ไม่ได้มีสภาพเป็นหลุมลึก แต่เป็นการปลูกพืชรวมกันเป็นกลุ่มในลักษณะหลุมตื้นๆ เป็นแอ่งลงไปเล็กน้อย เพื่อให้เวลาที่เราใส่ปุ๋ยจะได้ไม่กระจายออกไปตามหน้าดิน แต่จะไหลลงสู่หลุม และ ทำให้พืชได้รับส า รอาหารมากขึ้นด้วย
ขนาดของหลุมที่ได้รับความนิยมในการทำคือ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร จะทำเป็นแบบวงกลมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ เริ่มจากเตรียมพื้นที่ตามขนาดที่กำหนด แล้วก็ปลูกหญ้าแฝกเป็นรูปวงกลมหรือเป็นล็อกสี่เหลี่ยม จากนั้นปลูกไม้ในหลุมนี้ ลงไป 4 – 5 ชนิด ในหลุมเดียวเพื่อลดภาระการรดน้ำ การให้ปุ๋ย และ ให้พืชทุกชนิดอยู่อย่างเกื้อกูลกันเอง หากทำหลายหลุม ให้เว้นระยะห่างระหว่างหลุม 4 เมตร ถ้ามีพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ 100 หลุม หรือถ้าไม่มีที่เป็นผืนก็สร้างหลุมไว้ตามหัวไร่ปลายนา มุมบ้าน หลังครัว ขอบบ่อน้ำ ริมทางเดิน ได้หมด
ตัวอย่างหลุมพอเพียงซึ่งมีชื่อว่า ห ลุ ม ส้ ม ตำ ประกอบด้วย ต้นกล้วย มะละกอ มะเขือ มะนาว พริก เนื่องจากพืชที่ปลูกนี้เป็นส่วนประกอบของส้มตำอาหารยอดนิยมของบ้านเรานั่นเอง ซึ่งพืชจำพวกนี้เมื่อปลูกหลุมเดียวกันจะช่วยเกื้อกูลกันในด้านต่างๆมากมาย สำหรับไม้ที่แนะนำให้ปลูกรวมลงในหลุมพอเพียง ได้แก่ 1. ไม้ฉลาด เป็นไม้ข้ามปีหรือเรียกง่ายๆคือ เป็นพืชที่เอาตัวรอดได้ดี ทนแล้งทนฝนได้ เก็บผลผลิตได้นาน ในหลุมส้มตำจะมีไม้ฉลาดคือมะละกอนั่นเอง พืชที่ถือเป็นไม้ฉลาดก็มีให้เลือกปลูกมากมาย อาทิ ชะอม ผักหวาน ผักเม็ก เป็นต้น ซึ่งผักพวกนี้จะสามารถเก็บกินได้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
2. ไม้พี่เลี้ยง เป็นไม้ที่ให้ร่มเงาและเก็บความชื้นได้ดีในหน้าแล้ง ในหลุมส้มตำนี้จะมีไม้พี่เลี้ยงคือกล้วยนั่นเอง ควรจะปลูกไม้พี่เลี้ยงในทิศตะวันตกเพราะช่วยบังแสงช่วงบ่ายที่อากาศร้อนจัด เป็นพี่เลี้ยงให้พืชที่ไม่ชอบแดดจัดมาก ได้กล้วยเครือแรกเมื่อปลูก 1 ปี ก็ตัดทิ้ง ปล่อยหน่อใหม่ให้ทำงาน 3. ไม้บำนาญ เป็นพืชไม้ยืนต้น ใช้เวลาปลูก 2 – 4 ปี เมื่อให้ผลผลิตแล้วก็สามารถเก็บกิน เก็บขายได้เรื่อย ๆ ในหลุมส้มตำจะมีไม้รายวันคือมะนาวนั่นเอง พืชที่ถือเป็นไม้บำนาญก็มีให้เลือกปลูกมากมาย อาทิ ขนุน มะม่วง กระท้อน เงาะ ทุเรียน มังคุด ย างพารา เป็นต้น โดยในหลุมหนึ่งควรเลือกปลูกแค่ประเภทเดียว
4. ไม้มรดก เป็นกลุ่มไม้ใช้สอยที่อายุยืน ใช้เวลาปลูกนาน เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ตัดขาย ก็ได้เงินก้อนใหญ่หรือจะเอาไว้ซ่อมแซมบ้านก็ได้ เช่น ประดู่ สักทอง ย างนา สะเดา พะยูง ชิงชัน ไม้พวกนี้เป็นไม้ใหญ่ ปลูกฝั่งตรงข้ามกับต้นกล้วย 5. ไม้รายวัน เป็นพืชล้มลุก ปลูกแล้วมีอายุสั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไม่เท่าไหร่ก็หมดอายุแล้ว ในหลุมส้มตำจะมีไม้รายวันคือพริกและมะเขือนั่นเอง พืชที่ถือเป็นไม้รายวันก็มีให้เลือกปลูกมากมาย อาทิ กะเพรา โหระพา แตงไทย แตงกวา คะน้า เป็นต้น เก็บกินได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน
ประโยชน์ และ ข้อดี ของหลุมพอเพียง สามารถใช้พื้นที่การเกษตรได้คุ้มค่า เพราะ ในที่แปลงเดียวกันนั้น สามารถปลูกพืชได้หลากหลายชนิด ลดภาระการให้ปุ๋ย และ น้ำ ช่วยให้ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย และ เวลา ในการดูแล ลดต้นทุนเรื่องปุ๋ย เพราะ พืชที่ปลูกรวมกันแต่ต่างชนิดกันย่อมต้องการส า รอาหารที่ต่างกัน ดังนั้นพืชแต่ละชนิดจะไม่แย่งส า รอาหารในดิน ทำให้เจริญเติบโตได้ไวกว่าปลูกพืชเชิงเดี่ยว สามารถ สร้างเงิน สร้างงาน ให้กับตนเอง และ ครอบครัว ได้แบบยั่งยืนในระยะย าว เก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่พืชระยะสั้น ยันไม้ยืนต้นระยะย าว มีผลผลิตทางด้านการเกษตรตลอดทั้งปี เพราะ มีตั้งแต่ไม้รายวัน ไม้บำนาญ ยัน ไม้มรดก ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลติได้เรื่อยๆ
ข้อแนะนำ : ควรปลูกหญ้าแฝกล้อมหลุมพอเพียงไว้ด้วยเพราะรากหญ้าแฝกจะเป็นร่างแหในแนวดิ่งช่วยยึดดินให้คงรูปเปรียบเสมือนกระถางธรรมชาติ เพราะปมรากแฝกจะ ช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน ช่วยดูดซับน้ำในดินไว้ แทนที่จะซึมหายลงใต้ดินอย่างรวดเร็ว